พืชสีเขียวกับการล้างพิษ

ธรรมชาติรอบๆตัวเรา มีสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากมายนับไม่ถ้วน แต่ถ้าพิจารณากันอย่างถี่ถ้วน และอย่างเป็นเหตุเป็นผลทางวิทยาศาสตร์แล้วจะพบว่า ทุกอย่างในธรรมชาติ ล้วนดำรงตนให้อยู่ในภาวะสมดุลเสมอ ทั้งนี้เชื่อว่า ความอยู่รอดของทุกอย่างในธรรมชาติจะดำเนินไปได้ดี เมื่อยู่ในสภาวะสมดุล การมีองค์ประกอบหรือปัจจัย ที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป มักนำมาซึ่งความผิดปกติเสมอ ตัวอย่างง่ายๆจากตัวเราในทางการแพทย์พบว่า มีระบบปรับสมดุลของร่างกายอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถมีชีวิตรอดอยู่ ในสิ่งแวดล้อมต่างๆรอบตัวได้ เมื่อร่างกายได้รับสารเคมีใดๆมากเกินไป ร่างกายของคนเราก็จะขับออกไปโดยระบบขับถ่าย ไม่ว่าจะเป็นทางเหงื่อ ทางปัสสาวะ หรืออุจจาระก็ตาม ซึ่งอวัยวะที่เป็นหน้าด่านแรก สำหรับการกำจัดสารเคมีที่มีมากเกินไปในร่างกายก็คือ ตับ โดยกระบวนการเปลี่ยนสารเคมีเหล่านั้น ให้เป็นสารที่มีอันตรายน้อยลงแล้วจึงขับถ่ายไป แต่ปัจจุบันเราพบว่า สารเคมีดังกล่าวข้างต้น ที่มีเหตุที่จะเข้าสู่ร่างกายของเราด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทาน การหายใจ หรือสัมผัสอื่นๆ ดูจะมากขึ้นเรื่อยๆและมีความซับซ้อนอันตรายร้ายแรงมากขึ้น เกินกำลังความสามารถของตับที่จะทำลายสารพิษให้หมดสิ้นเพียงลำพัง ทำให้ความสมดุลตามธรรมชาติของร่างกายผิดไป ซึ่งมักก่อให้เกิดปัญหาความบกพร่องของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายเสมอ โดยเฉพาะเรื่องความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ที่เกิดจากการทำลายของสารพิษตกค้างที่มากเกินไปในร่างกายของเรา
ดังนั้น หากต้องการให้ร่างกายของเราอยู่ในสภาวะสมดุลหรือมีสุขภาพดีตลอดไป ก็ควรหาวิธีช่วยการทำงานของตับ ซึ่งมีหน้าที่กำจัดสารพิษตามลำพังอีกทางหนึ่งด้วย และวิทยาการปัจจุบันเราค้นพบว่า สารจากธรรมชาติด้วยกันจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ดีที่สุด สารดังกล่าวนั้นคือ คลอโรฟิลล์ จากพืชสีเขียว ซึ่งประมาณต้นๆศตวรรษที่ 20 นักวิทยาศาสตร์โดยศ.ฮานส์ ฟิชเชอร์ นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล เป็นผู้เผยความลับของสารคลอโรฟิลล์ดังกล่าว
คลอโรฟิลล์ จะให้ผลดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต และยังส่งผลในการกำจัดสารพิษตกค้าง หรือมีคุณสมบัติในการชำระล้าง มีฤทธิ์ในการป้องกันการติดเชื้อ สมานแผล และอื่นๆ และพบว่า กลุ่มพืชที่ให้สารคลอโรฟิลล์คุณภาพสูง คือ พืชในตระกูลสาหร่าย ต้นอ่อนของพืชพวกข้าว หรือพืชจำพวกที่มีฝัก ดังนั้นในการรับประทานอาหารจากพืชสีเขียว หลายๆชนิดร่วมกับการฟื้นฟูสุขภาพ และการทำงานของอวัยวะต่างๆ ของร่างกายน่าจะเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การบริหารสุขภาพจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายตามสมควร และเหมาะกับวัยของเราเพียงเท่านี้ การมีชีวิตท่ามกลางมลภาวะที่เป็นอยู่ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น