กล้วยกับการลดน้ำหนัก

ใครจะเชื่อ กล้วยหอมเพียง 2 ใบ ช่วยลดหุ้นให้ดูเพรียวบางได้และกลายเป็นสูตรลดน้ำหนักสุดฮิตที่สาวหนุ่มแดน ซากุระแห่ทำตาม จนแทบแย่งชิงกันเพื่อให้ได้กล้วยหอมมาครอบครองหวังลดน้ำหนักได้เพรียวกัน ถ้วนหน้า
สูตรลดน้ำหนักที่ตกเป็นข่าวโจษขานเมื่อไปไม่นานมานี้ แนะนำให้กินกล้วยหอม 1-2 ผล พร้อมกับน้ำในอุณหภูมิห้องในมื้อเช้า ส่วนมื้อกลางวันและเย็นสามารถกินได้ตามปกติ อาจจะเพิ่มอาหารว่างตอนบ่ายสามสิ่งสำคัญคือ งดของหวานและเข้านอนก่อนเที่ยงคืน
"ในทางโภชนาการแล้ว สูตรดังกล่าวสามารถลดน้ำหนักได้จริง หากเป็นคนที่ไม่ทานอาหารเช้าเลย หรือทานอาหารเช้าที่หนักเกินไป" แววตา เอกชาวนา นักโภชนาการ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั้นแนลอธิบายความเป็นไปได้
กล้วยหอม 1 ลูก น้ำหนักประมาณ 100 กรัม(ไม่รวมเปลือก) จะให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี ในกรณีที่กินข้าวเช้าตามปกติ เช่น ข้าวมันไก่ 1 จาน ที่ให้พลังงาน 500 กิโลแคลอรี หากเปลี่ยนมากินกล้วยหอมเป็นมื้อเช้าก็จะได้แคลอรีน้อยลง ในขณะเดียวกัน หากว่ากันตามสูตรก็จะให้กินพร้าอมกับน้ำ ทำให้อิ่มเร็วขึ้น
สำหรับคนที่ไม่เคยกินข้าวเช้า นักโภชนาการบอกว่า สูตรนี้ช่วยได้อย่างมาก เนื่องจากจะจะสามารถปรับเปลี่วนพฤติกรรมการกิน ใสห้ได้รับอาหารเช้า ซึ่งเป็นมื้อที่จำเป็นต่อร่างการและสมอง
"ในสังคมปัจจุบัน คนเร่งรีบจนไปกินอาหารเช้าหรือดื่มเพียงกาแฟ 1 แก้ว ซึ่งส่งผลต่อระบบการเผาผลาญในร่างกาย กล้วยหอมจะถือเป็นอาหารมื้อเช้าที่ช่วยให้ระบบการเผาผลาญทำงานอย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้น"
ในกล้วย นอกจากจะมีคาร์โบไฮเดรต และไฟเบอร์ ยังมีน้ำตาลทั้งกลูโคส, ฟลุกโตส และซูโคส ที่ช่วยเพิ่มพลังกายและสมอง ให้สามารถนำไปใช้ได้เลย ทำให้นักโภชนาการมองว่า สูตรลดน้ำหนักด้วยกล้วยนี้จะเป็นที่นิยมนานกว่าสูตรอื่น เนื่องจากเป็นสูตรที่ง่าย ราคาไม่แพง แถมยังอร่อย ทำให้คนไม่ฝ่นใจกิน ใจขณะเดียวกันก็สามารถใช้กับกล้วยประเภทอื่น ได้ไม่ว่าจะเป็นกล้วยน้ำว้า กล้วยไข่
นอกจากรับประทานกล้วยแล้ว ข้อห้ามเกี่ยวกับของหวานและการนอน ก็เป็นปัจจัยเสริมที่ดี ของหวานเป็นอุปสรรคสำคัญในการลดน้ำหนักขณะที่การจัดเวลาของว่างช่วงบ่ายสาม โมงก็ถือว่าดี จากเดิมที่คนไทยกินของว่างไม่เป็นเวลา ก็จะช่วยให้นาฬิการ่างกายเรียนรู้ และปรับระบบเผาผลาญในช่วงเวลานั้น ส่วนการนอนก่อนเที่ยงคืน ก็เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบเผาผลาญได้อีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ดี นักโภชนาการแนะนำว่า สูตรนี้เหมาะกับคนที่ไม่รับประทานอาหารเช้า หรือรับประทานอาหารเช้าที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ผู้ที่ไม่ควรลิ้มลองคือ ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคไต เนื่องจากกล้วยมีน้ำตาลและโปแตสเซียมสูงในขณะที่ผู้ที่รับประทานอาหารเช้า เพื่อสุขภาพอยู่แล้วก็ไม่จำเป็น อาทิเช่น คอร์นเฟลกกับนม, ข้าวกับแกงจึดตำลึง หรือข้าวกับไก่ผัดขิง เป็นต้น
สูตรลดน้ำหนักนี้ยังไม่เหมาะกับเด็กวัยเรียนเนื่องจากเด็กวัยนี้ต้องการ โปรตีนในช่วงเช้าเพื่อเป็นแหล่งพลังงานระหว่างวัน โดยนักโภคชนาการแนะว่า หากต้องการลดน้ำหนักอาจจะปรับสูตร เช่น กล้วยกับหมูปิ้ง กล้วยกับไข่ต้ม หรือกล้วยกับชีสแบบไขมันต่ำ
นักโภชนาการยังบอกด้วยว่า ไม่เฉพาะแต่กล้วยที่สามารถนำไปใช้เป็นสูตรลดน้ำหนักได้ ผลไม้อื่นก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยดูจากผลไม้ที่ไม่หวานมาก ไม่หนักแป้ง และกินได้ง่าย เช่น แอ๊ปเปิ้ล แคนตาลูป หรือ แตงโม เป็นต้น ในขณะเดียวกัน ก็ควรหลีกเลี่ยงทุเรียน,ขนุน ที่หวานจัดหรือผลไม้ที่เป็นกรดเช่น สับปะรด
"สิ่งสำคัญที่ต้องย้ำเตือนทุกคนคือ กล้วย 1 ใบ ไม่ใช่อาหารมหัศจรรย์ที่จะทำให้คนเราผอม สวย สุขภาพดี เนื่องจากเป็นอาหารที่ไม่ครบ 5 หมู่ แต่กล้วยจะเป็นจุดเริ่มต้น ให้คนหันมารับประทานอาหารเช้าซึ่งเป็นมื้อสำคัญ และเพิ่มสารอาหารให้ครบ 5 หมู่ในมื้ออื่นของวัน และต้องออกกำลังกายให้สมดุลกับอาการที่กินเข้าไปในแต่ละวัน เพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ดีต่อไป" นักโภชนาการกล่าว