รู้ตอนไหนลูกในท้องเป็นชายหรือหญิง

พัฒนาการและการเติบโตของอวัยวะเพศทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงในท้องแม่ พร้อมเคล็ดลับดูแลครรภ์

ลูกในท้องถูกกำหนดมาแล้วว่าชายหรือหญิง...ตั้งแต่ฝังตัวอ่อน


รู้ตอนไหนลูกในท้องเป็นชายหรือหญิง

ไตรมาสที่ 1 กำลังสร้างเป็นอวัยวะที่สมบูรณ์

สัปดาห์ที่ 7-8

ปกติแล้วทารกจะถูกกำหนดว่าเป็นเพศไหน ตั้งแต่ช่วงที่มีการปฏิสนธิและการฝังตัวอ่อนแล้ว โดยเพศชายจะมีโครโมโซม xy ส่วนเพศหญิง โครโมโซม xx ซึ่งช่วงไตรมาสแรก จะเป็นช่วงที่อวัยวะกำลังเริ่มก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาเป็นรูปร่าง ผิวหนังบริเวณขาหนีบเริ่มมีลักษณะนูนๆ ขึ้นมา และเริ่มมีการสร้างส่วนประกอบต่างๆ ของอวัยวะแล้ว เพียงแต่ยังเห็นไม่ชัดเจน

สัปดาห์ที่ 9-10

อวัยวะเริ่มมีการพัฒนา สร้างเป็นรูปร่างมากขึ้น ถ้าเป็นผู้ชายจะมีลูกอัณฑะ โดยมีลักษณะเป็นก้อนกลมๆ นูนขึ้นมา แต่ถ้าเป็นผู้หญิงจะมีลักษณะเป็นแคมเล็กๆ เกิดขึ้น

สัปดาห์ที่ 11-12

อวัยวะเริ่มมีลักษณะชัดเจนขึ้น มีรูปร่างเห็นได้ชัดเจน ในเด็กผู้ชายอวัยวะจะเริ่มมีการยื่นยาวขึ้น ลูกอัณฑะพัฒนาเสร็จสมบูรณ์ ส่วนผู้หญิงมีแคมนอกชัดเจน มีการสร้างรังไข่ มดลูกเสร็จสมบูรณ์แล้ว

ไตรมาสที่ 2 แม่รู้สักที...หนูเพศไหน

สัปดาห์ที่ 15-16

ในช่วงไตรมาสนี้คุณแม่สามารถตรวจเช็กเพศของลูกน้อย และรู้ได้แล้วว่าจะได้ลูกชายหรือหญิง ด้วยการตรวจอัลตราซาวนด์ หรือตรวจน้ำคร่ำ ซึ่งอวัยวะลูกน้อยจะเริ่มมีการสะสมของไขมัน ทำให้อวัยวะมีการขยายขนาดใหญ่ขึ้น ในเพศชาย บริเวณอวัยวะเริ่มมีผิวหนังย่น เป็นรูปทรงมากขึ้น ส่วนเพศหญิงแคมนอกเริ่มมีการนูนขึ้น

ไตรมาสที่ 3 อวัยวะหนูพัฒนาสมบูรณ์แล้วครับ/ค่ะ

สัปดาห์ที่ 20

อวัยวะมีการสะสมของไขมันมากขึ้น โครงสร้างมีลักษณะชัดเจน ในเพศชายกว่า 98% ลูกอัณฑะจะลงถุงหมดแล้ว เป็นรูปทรงชัดเจน ผิวหนังหนา และมีขนาดยาวขึ้น ส่วนผู้หญิงแคมนอกแคมในเริ่มมีการแยกอย่างชัดเจน มีขนอ่อนๆ ขึ้นบริเวณรอบๆ อวัยวะแล้ว

เคล็ดลับดูแลครรภ์

ในช่วงไตรมาสที่ 1 หรือสัปดาห์ที่ 11-13 เป็นช่วงที่สำคัญที่สุดที่อวัยวะของลูกน้อยมีการพัฒนา ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่ไม่จำเป็น การเดินทางท่องเที่ยวไกลๆ ที่อาจทำให้เกิดการกระทบกระเทือน หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจเกิดการกระทบกระเทือน และทำให้การส่งเลือดไปที่ลูกน้อยมีปัญหา ส่งผลให้การพัฒนาอวัยวะต่างๆ รวมทั้งการสร้างอวัยวะเพศของลูกมีปัญหาได้ด้วย

แต่ถ้าพ้นช่วงไตรมาสที่ 1 ไปแล้ว เป็นระยะปลอดภัยที่คุณแม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น เพราะอวัยวะต่างๆ ของลูกมีการสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว

เรียบเรียงจากการสัมภาษณ์ นพ.พูนศักดิ์ สุชนวณิช

ขอขอบคุณบทความดีๆเกี่ยวกับ แม่และเด็ก จาก นิตยสารรักลูก, Momypedia