การลดน้ำหนักการลดความอ้วนด้วยยาลดน้ำหนัก อันตราย!

การลดความอ้วน การลดน้ำหนัก คือการที่ทำให้น้ำหนักลดลงไปเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นและรูปร่างที่สมส่วนเพิ่มความมั่นใจให้คุณยามที่ต้องอยู่ในสังคมไม่ว่าจะเป็น สังคมที่โรงเรียน สังคมที่มหาลัย สังคมที่ทำงาน เป็นต้น ซึ่งการลดน้ำหนักสามารถทำได้หลายวิธีเช่นกัน ซึ่งหลายคนไม่ทราบว่า บางวิธีนั้นสามารถนำไปสู่ความตายได้เลยทีเดียว ซึ่งวิธีที่อันตรายนั้นเป็นวิธีที่ไม่ควรนำไปปฏิบัติเพื่อลดความอ้วน ถึงแม้ว่าวิธีเหล่านี้จะเป็นทางเลือกที่ให้ผลได้ไวที่สุดถ้าคุณต้องการลดความอ้วน ดังนั้นวันนี้ผมจึงจะมาแสดงข้อเสียของการลดน้ำหนักด้วยวิธีที่อันตรายกันครับ เพื่อเตือนสติสำหรับคนที่อยากลองใช้ยาลดความอ้วนและคิดว่าคงไม่เป็นไรและเพื่อชี้ให้เห็นถึงผลเสียที่ไม่คุ้มค่าในการแลกเปลี่ยนของการใช้ยาลดความอ้วนครับ



ข้อเสียหลักๆของการลดความอ้วนด้วยการใช้ยาลดความอ้วนคือ การรับประทานยาพวกนี้มีโอกาสที่ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงส่งไปที่ปอดซึ่งผลที่ตามมาก็คือทำให้ปอดไม่สามารถฟอกเลือกดำให้เป็นเลือดแดงได้ จนทำให้ร่างกายขาดอากาศไม่สามารถหายใจได้ด้วยตัวเองเป็นอันตรายอย่างมาก อีกความเสี่ยงหนึ่งก็คือความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ ซึ่งการรับประทานยาลดความอ้วนทำให้ผู้รับประทานเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้ง่าย ส่วนยาอีกประเภทที่นิยมใช้กันก็คือ ยาระบายซึ่งจะขับของเสีย และของเสียในตัวทำให้น้ำหนักลดลง ซึ่งวิธีนี้ก็เป้นอันตรายอย่างมาก ลองคิดดูนะครับ อยู๋ดีๆน้ำในตัวคุณออกไปจากร่างกายเกือบหมดจะเป็นยังไง ? ใช่แล้วครับ สิ่งที่ตามมาก็คือร่างกายคุณจะเกิดภาวะขาดนั้นซึ่งทำให้ความเสี่ยงต่างๆตามมาไว่ว่าจะเป็นการเป็นลม การเสียแร่ธาตุมากเกินไปที่จะนำไปสู่การล้มเหลวของหัวใจอย่างเฉียบพลันด้วย ซึ่งทั้งสองวิธีนี้เป็นวิธีการลดความอ้วนการลดน้ำหนักที่ๆไม่ดีเพราะเป็นวิธีการใช้ยาลดน้ำหนัก

เพื่อนๆคงเห็นความเสี่ยงที่ได้รับจากการใช้ยาลดความอ้วนไปแล้วนะครับ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าอันตรายต่างๆที่ได้รับจากสารเคมีในตัวยาลดความอ้วนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าแก่การลองใช้ยาลดความอ้วนเป็นอย่างยิ่ง ขอเตือนว่าการลดความอ้วนนั้นไม่ควรลดความอ้วนด้วยความรีบเร่งนะครับ อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ต้องการลดความอ้วนอยู่หรือว่าคนที่ไม่อ้วนก็ตามขอให้ตระหนักไว้อย่างนึงว่า การลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีและการควบคุมสุขลักษณะในการรับประทานอาหารให้ถูกต้อง เป็นทางออกที่ดีที่สุดในการควบคุมน้ำหนักให้ได้สมใจปรารถนาครับ

Read More

แรงจูงใจในการลดน้ำหนัก

สาวๆหลายคนรวมไปถึงหนุ่มๆหลายคนที่มีความคิดอยากจะลดน้ำหนักลง เนื่องจากไขมันส่วนเกินทำให้เราหมดความมั่นใจนี้ย่อมต้องเคยผิดหวังจากอะไรหลายๆอย่างเพราะเรื่องน้ำหนักตัวมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ความมั่นใจเวลาที่จะคุยกับคนที่ชอบ ความมั่นใจในที่สาธารณะที่น้อยลง ซึ่งปัญหาทางด้านจิตใจนี้ถือว่าเป็นปัญหาที่หลายๆคนให้ความสำคัญมากกว่าปัญหาด้านสุขภาพเสียอีก



ปัญหาหลักที่ผู้คนทุกคนหลายคนพบเจอในการลดน้ำหนักก็คือ ความขี้เกียจครับ ใช่ครับฟังไม่ผิดหรอก ความขี้เกียจนี่แหละครับคือปัญหาหลักในการลดความอ้วนเลย ซึ่งถ้าเรามองดูกันชัดๆจะเห็นได้ว่าความขี้เกียจเป็นปัจจัยภายในที่เกิดขึ้นเพราะตัวเราเป็นคนสร้างเอง ดังนั้นหลายๆคนคงเข้าใจแล้วสินะครับว่า ถ้าปัญหามันเกิดขึ้นจากตัวของเราเองเราก็ควรแก้ด้วยตัวของเราเองเช่นกัน แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือทุกคนมักจะไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหายังไง วันนี้ผมจึงมีวิธีการแก้ปัญหาความขี้เกียจมาเสนอครับเพื่อให้ทุกๆคนสามารถลดความขี้เกียจและนำไปสู่ร่างกายที่แข็งแรงและมีหุ่นที่ดูดีครับ

วิธีนี้เรียกว่าการสร้างแรงจูงใจ วิธีนี้เป็นวิธีลดความอ้วนที่ใช้ได้ผลพอสมควรและทำง่ายมาก การที่เราจะลดน้ำหนักลดหรือลดความอ้วนด้วยวิธีนี้นั้น เราจะต้องตั้งกฏเกณฑ์อะไรขึ้นมาสักอย่างโดยการพลิกวิกฤตมาเป็นโอกาส ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณอายที่จะใส่เสื้อที่ต้องโชว์สัดส่วน ก็ให้คุณตั้งเป้าหมายว่า ฉันจะต้องใส่ชุดนี้ให้ได้ภายใน XX วันให้ได้แทนที่จะคิดว่า ฉันคงไม่มีปัญญาใส่ชุดนี้ ซึ่งวิธีการคิดแบบเพิ่มแรงจูงใจนี้จะเป็นกุญแจในการนำทุกท่านไปสู่รูปร่างที่สมส่วนครับ

แต่ถึงแม้วิธีนี้จะง่ายเพียงใดก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้ใช้วิธีนี้หลายคนที่ล้มเหลวเพราะความขี้เกียจอยู่เหมือนเดิม เพราะความคิดของคนเราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เมื่อคุณมีความพยายามอยู่ 3 วัน ในวันที่ 4 คุณอาจจะกลับไปคิดความคิดติดลบก็ได้ ดังนั้นให้คุณระลึกอยู่เสมอๆนะครับว่า พลังใจของเราเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการลดน้ำหนักลดความอ้วน ซึ่งไม่ว่าจะลดน้ำหนักด้วยวิธีใดก็ตามการขาดพลังใจก็สามารถทำให้ทุกวิธีล่มสลายได้เช่นเดียวกับวิธีนี้ครับ

พลังใจคือส่วนที่สำคัญที่สุดตามที่ได้บอกไป ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการลดความอ้วนให้ได้ผล ก็ขอให้คุณมีความตั้งใจแน่วแน่อย่างแท้จริงนะครับ เพื่ออนาคตที่ดีของตัวคุณเอง อย่าทำตัวให้ดูเหมือนคนที่ทำอะไรไม่เคยสำเร็จ ให้ตั้งเป้าหมายแล้วเดินหน้าถึงแม้จะใช้เวลานานเท่าใดก็ตามแต่จงจำไว้ว่าทางออกมีอยู่เสมอ เมื่อคุณไปถึงทางออกได้วันนั้นจะเป็นวันที่คุณจะได้รูปร่างตามที่ใจฝันไว้ครับ

Read More

ความสำคัญของการลดความอ้วน ลดน้ำหนัก

ปัจจุบันโรคอ้วนกำลังจะเป็นปัญหาใหญ่ที่เริ่มบานปลายในสังคมไทย ซึ่งถือได้ว่าโรคอ้วนเป็นภัยเงียบอย่างนึงที่มีอันตรายมากพอดูเลยทีเดียว โรคอ้วนเกิดจากสุขลักษณะการรับประทานอาหารและการควบคุมอาหารที่ไม่ถูกต้องและไม่มีการควบคุมอย่างถูกวิธี บวกกับการที่ในปัจจุบันอาหารฟาสต์ฟู้ดซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดโรคอ้วนกำลังเป็นที่นิยม จึงทำให้ผู้คนเริ่มมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นในโรคอ้วน

หลายๆคนมักจะไม่รู้ว่าตัวเองอ้วนและไม่สนใจว่าตัวเองจะอ้วนแค่ไหนก็ตามในเวลาที่มีคนทัก ทั้งๆที่การที่มีน้ำหนักมากนั้นถือว่าเป็นความเสี่ยงอย่างร้ายแรงเลยทีเดียว แต่ในทางกลับกันก็ยังมีคนบางกลุ่มที่รู้ตัวและต้องการลดความอ้วนอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นวันนี้เราจะมาบอกความสำคัญของการลดความอ้วนให้ทุกๆท่านได้ฟังและนำไปพิจารณากันครับโดยเฉพาะถ้าหากท่านเป็นคนนึงที่อ้วนแต่ยังขี้เกียจลดความอ้วนหรือขี้เกียจปรับวิธีการกินของตนเอง ควรอ่านบทความนี้ให้ละเอียดยิบเลยครับ

เมื่อน้ำหนักเพิ่มนั้นหมายถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่จะตามมาและเมื่อมีคนรับรู้ถึงปัญหานั้น วิธีการลดน้ำหนัก การลดความอ้วน จึงได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อการลดน้ำหนักโดยเฉพาะสำหรับคนที่มีน้ำหนักมากและมีค่าเฉลี่ยระหว่างส่วนสูงและน้ำหนักที่ไม่สัมพันธ์กัน การลดความอ้วนไม่เพียงแต่จะนำไปสู่สุขภาพที่แข็งแรงแต่ก็ยังช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อคนที่เคยอ้วนกลับน้ำหนักลดลงจนผอม คนๆนั้นก็ย่อมมีความมั่นใจในตัวเองเวลาอยู่ต่อหน้าผุ้อื่นเพิ่มมากขึ้นแน่นอน การลดน้ำหนักลดความอ้วนยังมีข้อดีอีกอย่างนั่นก็คือ ทำให้โอกาสที่จะเป็นโรคร้ายๆต่างที่มีโอกาสเกิดขึ้นถ้าเราเป็นโรคอ้วนลดน้อยลงครับ แต่ไม่ว่าการลดน้ำหนักจะมีข้อดีขนาดไหนการลดน้ำหนักการลดความอ้วนก็ยังเปรียบเสมือนดาบสองคมด้วยเช่นกันถ้าคุณลดน้ำหนักผิดวิธี เพราะการลดน้ำหนักด้วยวิธีที่ผิดอาจจะทำให้สุขภาพของคุณแย่ลงหรือมีผลกับชีวิตของคุณเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น การลดความอ้วนด้วยการกินยาลดความอ้วน ซึ่งอาจจะมีผลทำให้ช็อคและหมดสติได้ซึ่งวิธีนี้ไม่คุ้มกับน้ำหนักที่จะลดลงอย่างแน่นอน

เราคงได้เห็นความสำคัญของการลดน้ำหนักไปแล้วนะครับว่าการลดน้ำหนักและการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติมีความสำคัญมากเพียงใด ถ้าหากใครสามารถนำคำแนะนำของผมไปปฏิบัติตามได้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมครับ ส่วนใครที่ยังขี้เกียจอยู่หรือหาข้ออ้างในการลดน้ำหนักต่างๆนาๆมาอ้าง ก็ขอให้ทราบไว้เลยครับว่า อันตรายกำลังถามหาคุณอยู่

Read More

ช็อกโกแลตอันตรายอย่างไร

เมื่อหลายปีตอนที่เรานั้นยังเด็ก ผู้ใหญ่เช่น พ่อแม่ ย่า ยาย จะห้ามไม่ให้เรานั้นดื่ม น้ำชา กาแฟ อื่นๆ พอเข้าสู่วัยรุ่นหรือที่เรียกกันว่าโตขึ้น ก็ห้ามไม่ให้เรานั้นดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เพราะเหล้านั้นผสมแอลกอฮอล์ บุหรี่ก็มีนิโคติน ชาและกาแฟก็มีกาเฟอีนมากมายเลย ซึ่งสารเหล่านี้สามารถทำให้เรานั้นเสพติดได้ แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ผู้ใหญ่เรานั้นมองข้าม เพียงเพราะคิดว่ามันเป็นแค่ขนมหวานเท่านั้น ทำให้ฟันของเราผุก็แค่นั้น นั่นคือ ช็อกโกแลตนั่นเอง ช็อกโกแลตเป็นของโปรดของเด็กหลายๆคนและเป็นจำนวนมาก และไม่ใช่แค่เด็กที่ชอบ ยังรมไปถึง ผู้ใหญ่และวัยรุ่นอีกมากมายด้วยค่ะ


เพราะช็อกโกแลตนั้นทำมาจากโกโก้ และได้มีการผสมนมและน้ำตาลลงไปบ้างเล็กน้อย ถ้าหากนำมาทำเป็นเครื่องดื่มที่เรียกว่าทีโอโบรมีน ซึ่งหากมองในแง่ที่ทีโอโรมีนเป็นยาจะมีสรรพคุณกระตุ้นการทำงานของไต ได้ใช้สารชนิดนี้เป็นยาขับปัสสาวะค่ะ ดังนั้นการดื่มหรือกินช็อกโกแลตจึงไม่ได้ต่างๆปกับการดื่มน้ำชาหรือกาแฟเลยค่ะ และช็อกโกแลตแท้ที่มีรสขมเมื่อถูกนำมาทำเป็นขนมนั้นจึงต้องเพิ่มน้ำตาลประมาณ 50 เปอร์เซ็นเลยทีเดียวค่ะ เพื่อช่วยลดความขมของช็อกโกแลตได้ และในช็อกโกแลตยังมีไขมันประมาณ 20-30เปอร์เซ็น ซึ่งทำให้กระเพาะอาหารย่อยยากมาก และผ่านกระเพาะไปได้ช้ามาก ทำให้คนที่กินมีความหิวน้อยลง ซึ่งเป็นผลทำให้คนที่กินเข้าไปนั้นได้รับสารอาหารที่ไม่ครบถ้วนค่ะ
ไม่จำเป็นว่าจะไม่กินเลย แต่ต้องกินให้เป็นเวลาและไม่ควรกินเป็นประจำทุกวัน เพราะไม่ใช่แค่ขาดสารอาหาร อาจจะทำให้อ้วนขึ้นจากไขมันที่ผสมอยู่ในช็อกโกแลตก็ว่าได้ค่ะ

Read More

การกินผักช่วยลดน้ำหนักหรือความอ้วนได้จริงหรือ?

อยากบอกว่าการที่เรากินผักเป็นการเพิ่มวิตามินต่างๆเข้าร่างกายมากมาย แต่ผักก็มีสรรพคุณบางอย่างเช่นกัน ก็คือ ทำให้ร่างกายขับถ่ายได้ง่าย ซึ่งเป็นผลดีต่อ ผิวพรรณมากๆ ทำให้ผิวสวยแถมมีออร่าอีกด้วยนะคะ แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้นค่ะ ประเด็นคือการที่เรากินผักก็ช่วยให้น้ำหนักหรือความอ้วนและส่วนเกินเราหายไปได้ด้วยค่ะ เพราะผักเป็นอาหารที่ไม่หนักมากและยังย่อยง่ายกว่าอาหารประเภทอื่น อย่างเช่น พวกอาหารที่มีส่วนผสมเป็นเนื้อสัตว์ นั่นเองค่ะ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การที่เรากินผักก็ไม่ได้ทำให้เราเสียประโยชน์ ดังนั้นหากเราจะหันมากินผักเพื่อช่วยลดน้ำหนักหรือที่เรียกกันว่าลดความอ้วนก็ไม่แปลกค่ะ เพราะเห็นผลได้จริงแน่นอนค่ะ แต่ต้องกินให้ได้ทั้งเช้า เที่ยง และเย็น เพื่อให้ได้พลังงานที่เพียงพอต่อร่างกายก็ควรเพิ่มอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตด้วยก็ได้ค่ะ และหากเราสามารถลดน้ำหนักได้แล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือความย่อนคล้อยของผิวหนัง ซึ่งเกิดจากการที่เรานั้นลดน้ำหนักในเวลาที่เร็วเกินไป แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เรามีวิธีแก้ก็คือการออกกำลังกายควบคู่ไปกับการลดน้ำหนัก เราจะได้รับผลประโยชน์ 3 เท่าก็คือ ทั้งได้ผิวที่สวยจากผักที่เรานั้นกินไป ทั้งยังมีหุ่นที่กระชับทุกสัดส่วน และยังไม่อ้วนเหมือนเดิมอีกแล้วด้วยค่ะ แนะนำให้นำให้ได้ทุกวันเป็นประจำจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตเลยก็ได้ค่ะ วิธีนี้ไม่ได้ยากอย่างที่คิดยังไงก็ลองไปทำกันดูนะคะ

Read More

4 ขั้นตอนหน้าใส

ผลพวงที่มักจะเกิดขึ้นหลังจากการเกิดสิวบริเวณใบหน้านั้นส่วนใหญ่ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของรอยหรือว่าจุดด่างดำซึ่งเชื่อว่าทุกคนต่างก็ต้องเผชิญกับปัญหาดังกล่าวด้วยเหมือนกัน หลายท่านก็พยายามหาวิธีการรักษาจุดด่างดำด้วยวิธีการทางการแพทย์ ซึ่งบางท่านก็เรียกได้ว่าได้ผลเป็นอย่างดีแต่สำหรับบางท่านนอกจากจะไม่ได้ผลแล้วก็ยังทำให้เกิดการอักเสบบริเวณใบหน้าขึ้นมาอีกรอบ บางรายเป็นหนักถึงขั้นเป็นผื่นแดงมีรอบแพ้เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก วันนี้เราจึงถือโอกาสดีนำเอาวิธีการทำหน้าใสไร้ลอยสิวจากของที่เราสามารถหาภายในครัวเรือนมาฝากกัน

อุปกรณ์ที่เราต้องเตรียม

1.โยเกิร์ต สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปในราคาประมาณ 12-20 บาท โดยแนะนำให้ท่านเลือกเอารสชาติทั่วไปหรือว่ารสชาติดั่งเดิมที่ไม่มีการปรับแต่งมาใช้ หลีกเลี่ยงการนำรสชาติประเภทหวานหรือว่ารสอื่นๆที่เรานำมารับประทานมาทำเนื่องจากจะให้สารที่ไม่ดีต่อใบหน้าหรือว่าอาจจะทำให้หน้าของคุณแพ้ได้ง่าย

2.มะเขือเทศ ถ้าหากท่านพอจะมีความสะดวกในการหาซื้อนั้นแนะนำให้ใช้มะเขือเทศลูกเล็กแต่ถ้าหากไม่สะดวกก็สามารถใช้มะเขือเทศลูกใหญ่ที่เราพบเห็นกันเป็นประจำทดแทนกันได้

3.ผงขมิ้น โดยมีวิธีการนำมาซึ่งผงขมิ้นได้ทั้งหมด 2 แบบคือแบบแรกหาซื้อตามร้านค้าทั่วไป ที่เป็นผงสำเร็จรูปแล้ว แต่ว่าไม่ค่อยแนะนำเนื่องจากจะมีการเจือปนของสารพิษอื่นๆได้ และแบบที่สองก็คือการหาซื้อขมิ้นจากตลาดทั่วไป นำมาล้างให้สะอาดจากนั้นนำไปปั่นให้ละเอียดและนำมาใช้งาน

4.น้ำมะขามเปียก ตามร้านค้าทั่วไปมีจำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย แต่ถ้าหากท่านไม่มีความมั่นใจในความสะอาดวิธีการทำก็แสนง่ายเพียงแค่นำมะขามเปียกมาแช่น้ำอุ่นแล้วทิ้งไว้สักพักให้น้ำภายในซึมออกมาจากนั้นก็ทำการกรองเศษออกเพียงเท่านี้ก็เสร็จ

วิธีการทำ

1.นำมะเขือเทศมาล้างให้สะอาดทางที่ดีอาจจะใช้วิธีการแช่น้ำเกลือทิ้งไว้ด้วยก็จะเป็นการดีมาก จากนั้นนำมาหั่นหรือว่าปดให้ละเอียดที่สุด

2.นำผงขมิ้น และ น้ำมะขามเปียก มาผสมกันโดยให้อัตราส่วน 2 ต่อหนึ่ง นั้นคือผงขมิ้น 1 ช้อนโต๊ะและน้ำมะขามเปียก
อีก 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นคนให้เข้ากัน (เป็นเนื้อเดียวกัน)

3.นำโยเกิร์ตมาผสมกับส่วนประกอบทั้งหมดนั้นคือ มะเขือเทศปดละเอียด ผงขมิ้นที่ผสมกับน้ำมะขามเปียกเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็คนให้เข้ากันระยะเวลาเฉลี่ยประมาณ 3 นาทีเพียงแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จ

การใช้งาน

หลังจากที่ท่านทำความสะอาดใบหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นให้ท่านทำผลิตภัณฑ์ที่ทำในวิธีการข้างต้นนั้นมาทาบนใบหน้าให้ทั่วบริเวณ ทิ้งไว้สักระยะหนึ่งจากนั้นล้างออกให้สะอาด ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องประมาณ 5 สัปดาห์ใบหน้าของคุณก็จะสว่างและขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

Read More

กินยาคุมกำเนิดแบบไหนถูกต้อง

การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นวิธีที่ได้ รับความนิยมสูง เนื่องจากการกินยาเป็นวิธีที่ง่ายไม่เจ็บตัว ราคาถูก ผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูง ใช้กันอย่างคุ้นเคยมานานแล้ว สะดวก หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป แต่ผู้ใช้ต้องเข้าใจเมื่อเริ่มใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดให้ถูกต้อง

 

ทำอย่างไรหากต้องกินยาอื่นร่วมกับยาเม็ดคุมกำเนิด

ถ้ามีการเจ็บป่วยอื่น ๆ ขณะใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด เมื่อไปพบแพทย์ หรือซื้อยากินเอง ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบว่ากำลังใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดอยู่ เนื่อง จากมียาหลายชนิด เช่น ยารักษาวัณโรค ลมชัก และยาปฎิชีวนะบางตัวที่ทำให้ประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิดลดลงเมื่อนำมาใช้ ร่วมกัน และอาจส่งผลให้มีเลือดออกผิดปกติ หรือตั้งครรภ์ได้ ซึ่งหากต้องใช้ยาเหล่านั้นเป็นเวลานานอาจต้องเลือกยาเม็ดคุมกำเนิดที่มี ปริมาณตัวยาสูงขึ้น หรือเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นแทน

อาการข้างเคียงจากยาเม็ดคุมกำเนิด

ยาเม็ดคุมกำเนิดอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน อาการเจ็บคัดเต้านม เลือดออกกะปริดกะปรอย น้ำหนักตัวเพิ่ม มีสิว มีฝ้า ปวดศีรษะ อาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักหายไปได้เองหลังจากใช้ยาเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ถึง 3 เดือน

ทำไมกินยาเม็ดคุมกำเนิดแล้วตั้งครรภ์

1.รับประทานยาอื่นร่วมกับยาเม็ดคุมกำเนิดตามที่บอกไว้ข้างต้น

2.ลืมกินยา
ยาคุมกำเนิด

ทำอย่างไรถ้าลืมกินยาเม็ดคุมกำเนิด

ยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นยาที่ต้องใช้อย่างต่อเนื่อง การลืมกินยาเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย ๆ แม้ว่าไม่เป็นอันตรายแต่ก็มีผลเสีย เช่น ทำให้ผู้ใช้มีเลือดออกกะปริดกะปรอย และถ้าลืมกินบ่อย ๆ อาจเกิดการตั้งครรภ์ได้ จึงควรกินยาในเวลาเดียวกันทุกวัน เก็บยาในที่เห็นได้ง่าย ๆ เพื่อช่วยเตือนไม่ให้ลืมกินยา กรณีที่ลืมกินยาแล้วให้แก้ไข ดังนี้

ลืม 1 เม็ด ให้กินทันทีที่นึกได้ และกินเม็ดต่อไปในเวลาเดิม

ลืมตั้งแต่ 2 เม็ด ขึ้นไป ติดต่อกันในช่วง 2 สัปดาห์แรก (14 เม็ดแรกของแผง ซึ่งเป็นยาฮอร์โมน) ให้กิน 1 เม็ดทันทีที่นึกได้ และกินเม็ดต่อไปในเวลาเดิมตามปกติจนหมดแผง

ลืมตั้งแต่ 2 เม็ด ขึ้นไป ติดต่อกันในช่วงสัปดาห์ที่ 3 (เม็ดที่ 16-21 ของแผง ซึ่งเป็นยาฮอร์โมน) ให้กิน 1 เม็ดทันทีที่นึกได้ และกินเม็ดต่อไปในเวลาเดิมตามปกติจนหมดแผงครบ 21 เม็ด และเริ่มกินยาฮอร์โมนเม็ดแรก ของแผงใหม่ติดต่อกันไปโดยไม่ต้องเว้นระยะ 7 วัน

กรณีที่เป็นยาชนิดแผงละ 28 เม็ด ให้ทิ้งยาหลอก 7 เม็ดไป

กรณีที่ลืมมากกว่า 2 เม็ดในช่วงใดก็ตาม ให้ใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่น เช่น การใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย เป็นต้น

ทำอย่างไรหากประจำเดือนไม่มา

ถ้าไม่ลืมกินยาไม่ต้องวิตกกังวล และให้เริ่มต้นยาแผงใหม่ตามเวลาปกติ แต่ถ้าขาดประจำเดือนนานติดต่อกัน 2 เดือน ต้องไปพบแพทย์ เพื่อตรวจการตั้งครรภ์ ถ้าลืมกินยาก็ต้องตรวจการตั้งครรภ์เช่นกัน

ข้อควรรู้

การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างการใช้ยา ทั้งในผู้ที่ใช้ยาเป็นครั้งแรก ผู้ที่ต้องการเริ่มใหม่หลังจากหยุดใช้ยาไปช่วงหนึ่ง ถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ใน 2 สัปดาห์แรกต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย เพราะยาจะยังไม่ออกฤทธิ์

Read More

ตกขาว ปัญหาสุขภาพคุณผู้หญิง

ปัญหาสุขภาพของผู้หญิงอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นภายในร่างกายคือ ตกขาว อาการตกขาวที่เกิดกับผู้หญิงโดยทั่วไปถือเป็นเรื่องปกติที่ไม่น่าจะเป็น ปัญหาสุขภาพต่อผู้หญิง ถ้าเป็นอาการตกขาวแบบปกติคือเป็นของเหลวใสหรือขาวขุ่นไหลออกมาจากช่องคลอด มากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคล ตกขาวที่เป็นนี้จะไม่มีอาการคัน ไม่มีกลิ่นเหม็น ถ้าตกขาวของผู้หญิงคนใดมีลักษณะที่กล่าวมาข้างต้นถือว่าเป็นตกขาวปกติ ไม่จำเป็นต้องรักษาเพียงแต่คอยตรวจเช็คร่างกาย (มะเร็งปากมดลูก) เป็นประจำทุกปีก็เพียงพอแล้ว

ภาวะตกขาว ซึ่งบางทีเรียกว่า มุตกิด หรือระดูขาวนั้น เป็นภาวะหนึ่ง ที่สตรีส่วนมากต้องประสบ และทำให้สตรีจำนวนไม่น้อย มาพบแพทย์และสูตินรีแพทย์ ภาวะดังกล่าว อาจเป็นอาการที่แสดงออกมา จากการตอบสนองต่อฮอร์โมนในสตรีที่ปกติ หรือจากการที่เป็นโรคที่ไม่รุนแรง เรื่อยไปจนกระทั่งถึงโรคที่รุนแรงก็ได้ ดังนั้นภาวะนี้จึงมีความสำคัญมิใช่น้อย

อาการตกขาวอีกชนิด หนึ่งที่เป็นตกขาวผิดปกติ มักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อต่างๆ เช่น ตกขาวที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ตกขาวที่ติดจากเชื้อแบคทีเรียและตกขาวที่มีสาเหตุจากเชื้อราและพยาธิในช่อง คลอด สาเหตุการติดเชื้ออาจเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ การสวนล้างช่องคลอดโดยใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะ ฯลฯ

ตกขาว ปัญหาสุขภาพคุณผู้หญิง

การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อเป็นโรคเริม จะทำให้เกิดตุ่มใสๆ ขนาดเล็กแล้วตุ่มใสๆ จะแตกเป็นแผลมีตกขาวสีเหลืองและกลิ่นผิดปกติ ตกขาวที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียมักมีสีเหลืองค่อนข้างเขียว มีกลิ่นเหมือนกลิ่นคาวปลา อาจมีอาการปวดแสบขณะปัสสาวะได้ ส่วนตกขาวที่เกิดจากเชื้อราจะมีอาการคันบริเวณช่องคลอด ตกขาวที่ออกมาจะมีสีขาวคล้ายนมที่ทารกแหวะออกมา

ตกขาวทำให้เกิดปัญหาสุขภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลิ่นของตกขาวและอาการคันบริเวณช่องคลอดจะทำให้ผู้หญิงเกิดความรำคาญและขาดความมั่นใจ จึงไม่ควรละเลยให้ปรึกษาแพทย์หาทางรักษาให้ตรงตามสาเหตุจะทำให้อาการตกขาว หายได้เร็วขึ้น ตกขาวที่เกิดจากเชื้อโรคคนละชนิดย่อมต้องใช้ยาและวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน ไปตามชนิดของเชื้อที่ได้รับ แต่หากเป็นตกขาวที่เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ควรตรวจรักษาคู่สมรสด้วย จึงจะไม่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและเกิดโรคซ้ำอีกในอนาคต

อาการตกขาวเป็นปัญหาสุขภาพที่ผู้หญิงควรให้ความใส่ใจไม่แพ้ส่วนอื่นๆของร่างกาย ควรรักษาความสะอาดบริเวณปากช่องคลอด อย่าให้อวัยวะเพศอับชื้น หลังการถ่ายอุจจาระให้เช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง(เช็ดย้อน ศร)เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากทวารหนักเข้าสู่ช่องคลอด การมีเพศ สัมพันธ์ควรใช้สารหล่อลื่นเพื่อป้องกันการเกิดบาดแผลถลอกหรือทำให้ช่องคลอด ระคายเคือง หลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะให้มากที่สุด หากมีอาการตกขาวที่ผิดปกติ(มีกลิ่น)ให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษาให้หาย โดยเร็วเพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาการตกขาวอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอย่างอื่นที่ร้ายแรงตามมาได้.

ตกขาว...อย่าตกใจ

ตามปกติแล้วในสตรีที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ (อีกนัยหนึ่ง คือ สตรีที่อยู่ในช่วงอายุที่ยังมีประจำเดือน หรือมีฮอร์โมนเพศหญิงเจริญเต็มที่) จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแตกต่างกันไป ตามระยะของประจำเดือน การเปลี่ยนแปลงนี้ จะมีผลต่อการลักษณะของเหลว ที่สร้างขึ้นมาจากอวัยวะต่างๆ ในระบบสืบพันธุ์สตรี ดังเช่น ในช่วงกึ่งกลางรอบประจำเดือน หรือระยะใกล้เคียงกับการตกไข่ ซึ่งเป็นเวลาที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ทำให้ในช่วงเวลานี้ จะมีตกขาวลักษณะค่อนข้างเหลวใสๆ ปริมาณมากกว่าระยะเวลาอื่น ส่วนตกขาวในระยะเวลาอื่น จะมีสีขาวขุ่นคล้ายแป้งเปียก นอกจากนั้นแล้ว ตกขาวที่ปกติควรจะไม่คัน และไม่มีกลิ่น ถ้าตกขาวของท่านมีลักษณะดังที่กล่าวมานี้ ถือว่าปกติ ไม่มีความจำเป็นต้องรักษา

อย่างไรก็ตาม สตรีแต่ละท่านจะมีปริมาณตกขาวแตกต่างกันไป บางท่านอาจมีปริมาณตกขาวมาก จนเปื้อนชุดชั้นในอยู่หลายวันในแต่ละเดือน แต่สำหรับบางท่านอาจมีปริมาณน้อย จนไม่รู้ว่ามีตกขาวเลย

นอกจากนี้ ฮอร์โมนในสตรีในวัยดังกล่าว ทำให้เซลล์ในช่องคลอดสมบูรณ์ และมีการสร้างสารประเภทแป้ง ที่เรียกว่า ไกลโคเจน ซึ่งจะถูกเปลี่ยนแปลง โดยแบคทีเรียชนิดหนึ่งให้เป็นกรดอ่อนๆ ภาวะนี้จะช่วยป้องกัน การรุกรานจากเชื้อโรคชนิดอื่น ที่ก่อให้เกิดความผิดปกติได้

ภาวะตกขาวที่ผิดปกติเป็นอย่างไร มีสาเหตุจากอะไร

ตกขาวผิดปกติ จะมีลักษณะที่ต่างออกไปจากที่กล่าวมาข้างต้น จะมีสาเหตุใหญ่อยู่ 2 ประเภท คือ สาเหตุจากการติดเชื้อ และสาเหตุจากการไม่ติดเชื้อ

ตกขาวที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อ

ตกขาวจากสาเหตุนี้ เกิดได้จากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย รา และพยาธิในช่องคลอด ตกขาวประเภทนี้ บางชนิดจะมีลักษณะที่ค่อนข้างเฉพาะตัว ดังจะกล่าวต่อไป

ตกขาวที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส

เชื้อไวรัสบางชนิด เป็นเชื้อโรคที่ติดต่อมา โดยการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อ บางครั้งอาจไม่มีอาการชัดเจน ตัวอย่างของโรคในกลุ่มนี้ได้แก่ โรคเริมซึ่งเป็นโรคที่ไม่หายขาด จะมีอาการเป็นตุ่มใสๆ ขนาดเล็ก ต่อมาจะแตกเป็นแผลแสบ มีตกขาวสีเหลือง มีกลิ่นผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในครั้งแรกที่ปรากฏอาการ

ตกขาวที่มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย

ตกขาวประเภทนี้ มักมีสีเหลือง หรือค่อนข้างเขียว อาจมีอาการคันในบางราย เชื้อบางชนิดอาจเกิดตกขาว มีกลิ่นคาวปลาหลังการร่วมเพศ แต่ในกรณีที่มีการติดเชื้อจากโรคหนองใน จะมีตกขาวสีเหลืองจัด อาจร่วมกับมีอาการปัสสาวะแสบขัดได้

ตกขาวมีสาเหตุจากเชื้อรา

เชื้อราในช่องคลอด มักทำให้เกิดอาการตกขาวสีขาว มีลักษณะเป็นก้อนเล็ก ๆ คล้ายนมที่ทารกแหวะออกมา และมีอาการคันช่องคลอด การตกขาวชนิดนี้ มักไม่ได้เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สาเหตุที่พบบ่อยเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะ น้ำยาสวนล้างช่องคลอด ที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะ หรือในกรณีที่ผู้ป่วยมีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ผู้ป่วยกำลังใช้ยาที่มีฤทธิ์กดภูมิต้านทาน

ตกขาวที่มีสาเหตุจากเชื้อพยาธิในช่องคลอด

พยาธิชนิดนี้ เป็นโรคติดต่อเชื้อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง มักมีสีเหลือง อาจเห็นเป็นฟอง มีอาการคันช่องคลอด และอาจมีกลิ่นออกเปรี้ยวเล็กน้อย

ตกขาวที่มีสาเหตุจากการไม่ติดเชื้อ

ตกขาวผิดปกติประเภทนี้ มีสาเหตุได้จาก การระคายเคืองหรือแพ้สารเคมี จากมะเร็งในอวัยวะสืบพันธุ์สตรี (เช่น มะเร็งของปากมดลูก ช่องคลอด ท่อนำไข่) รวมทั้งเกิจากการมีสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด

ท่านจะทำอย่างไรในกรณีที่เกิดปัญหาตกขาว

ท่านที่ประสบปัญหาตกขาว ที่มีลักษณะปกติดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้น ท่านก็ไม่จำเป็นต้องทำการรักษาแต่อย่างไร เพียงแต่ควรมาพบสูตินรีแพทย์ของท่าน เพื่อตรวจภายใน พร้อมทั้งตรวจมะเร็งปากมดลูกประจำปี

แต่ถ้าหากว่าท่านมีอาการตกขาว ที่มีลักษณะผิดปกติ กล่าวคือ มีสี กลิ่นผิดไปจากปกติหรืออาจมีอาการคันร่วมด้วย ก็ควรจะได้รับการตรวจ และรักษาให้ถูกต้องตามสาเหตุ ทั้งนี้เนื่องมาจากการรักษาที่ตรงตามสาเหตุ จะทำให้โรคหายเร็วขึ้น เช่น ในกรณีที่ตกขาวจากเชื้อรา แพทย์อาจจะให้ยาเหน็บรักษาด้วย โคลไทรมาโซล หรือถ้าเป็นจากเชื้อพยาธิในช่องคลอด ก็อาจจะต้องใช้ยารับประทาน เมโทรนิดาโซล เป็นต้น

ประการที่สอง สาเหตุของตกขาวที่ปิดปกติ บางครั้งอาจเกิดจากมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์สตรีได้ โรคดังกล่าวนี้ ควรได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน

ส่วนประการสุดท้ายคือ ถ้าอาการตกขาวของท่านมีสาเหตุจาก โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ท่านควรจะได้รับการตรวจหา พร้อมกับการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่น ที่อาจเกิดร่วมด้วย รวมทั้งต้องมีการตรวจรักษาคู่สมรสด้วย จึงจะไม่ทำให้ท่านและคู่สมรส เกิดภาวะแทรกซ้อน และเกิดโรคขึ้นซ้ำอีกในภายหลัง

ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูล สุขภาพผู้หญิง และ จาก พ.อ.ผศ.น.พ.ธนบูรณ์ จุลยามิตรพร สูติแพทย์ที่ปรึกษา รพ.วิภาวดี โรงพยาบาลวิภาวดี - www.vibhavadi.com

Read More

มาลดพุงกันดีกว่า

การลงพุงไม่ได้มีเฉพาะคนอ้วนเท่านั้นนะคะ แต่คนผอมก็ลงพุงได้เหมือนกัน และการลงพุงยังทำให้สาว ๆ หนุ่ม ๆ ทั้งหลายเสียความมั่นใจกันไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงแม้จะพยายามอย่างหนักในการลดพุงก็ยังไม่สำเร็จ เพราะเกิดอาการท้อจนล้มเลิกกลางคัน ฉะนั้นแล้วก่อนที่คุณจะเริ่มทำอะไรสักอย่าง คุณควรตั้งสติและตั้งใจให้มั่น หากคุณมีเป้าหมายในการลดพุง คุณก็ต้องมุ่งมั่นในสิ่งที่คุณต้องการทำ

ต่อจากความมุ่งมั่นคุณต้องตั้งเป้าหมายในแต่ละวัน และทำการจดบันทึกรายละเอียดต่าง ๆ ในขั้นตอนสุดท้ายคือลงมือทำให้เป็นจริง โดยเริ่มแรกของการลดพุง คุณควรจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณเสียใหม่ เพื่อให้ง่ายต่อการเป้าหมายที่คุณตั้งไว้
- เป้าหมายแรก ควรคิดทุกครั้งก่อนที่จะกิน คิดถึงแต่สิ่งที่กินแล้วมีประโยชน์
- เป้าหมายที่ 2 หากิจกรรมอย่างอื่นทำให้มากขึ้น เพื่อให้คุณได้ขยับร่างกายมากกว่านั่งอยู่จอคอมพิวเตอร์
- เป้าหมายที่ 3 ออกกำลังกายด้วยการซิตอัพกระชับหน้าท้องเป็นประจำทุกวัน

และถ้าอยากจะลดได้ไวกว่านี้ ควรเน้นทานผักและผลไม้ร่วมด้วยในอาหารทุกมื้อ และควรเข้านอนให้ไวขึ้น เพื่อให้ร่างหลั่งสารฮอร์โมนที่ช่วยในการเผาผลาญพลังงาน ถ้าคุณหมดกำลังใจจนปล่อยให้ตัวเองอ้วนอาจจะทำให้เกิดโรคร้ายตามมา เพราะไขมันที่สะสมอยู่บริเวณท้องจะมาซึ่งโรคต่าง ๆ หากคุณมีความมุ่งมั่น มีเป้าหมาย ไม่ว่าคุณจะลงมือทำอะไรย่อมสำเร็จแน่นอน เพราะฉะนั้นแล้วอย่าพึ่งท้อหรือยอมแพ้กันนะคะ

Read More

บำรุงเส้นผมให้สลวย

ไม่ใช่แค่การแต่งหน้าหรือการแต่งตัวจะทำให้คุณดูดีได้ แต่การมีสุขภาพเส้นผมที่ดีและสวยก็ทำให้คุณมีชัยไปกว่าครึ่ง ถ้าหากไม่เชื่อก็ลองสังเกตสาว ๆ ที่มีเส้นผมสวยดำเป็นเงางามดูสิคะ ถึงแม้เราจะไม่เห็นว่าหน้าตาเป็นยังไง แต่เมื่อสายตาของเราได้หันไปเจอกับเส้นผมยาวสลวย เราจะเกิดอาการรู้สึกได้ทันทีเลยว่า ผู้หญิงคนนี้ดูดีจัง ทำไมผมถึงสวยขนาดนี้ แล้วคุณล่ะคะอยากมีเส้นผมสวย ๆ จนน่าอิจฉาแบบนี้รึเปล่า

ถ้าคุณอยากมีเส้นผมดำเงางามแลดูสลวยจนใคร ๆ ต้องเหลียวมอง คุณต้องไม่ทำสีผม เพราะการทำสีผมมีผลต่อหัวใจของคุณ เหมือนเป็นการทำร้ายหัว เพราะผมสีดำจะช่วยกรองคลื่นความถี่ที่จะมาทำร้ายหัวใจของคุณได้ และยังทำให้ผมของคุณ ต่อมาก็ห้ามดัดผม ห้ามยืดผม ถือเป็นการทำร้ายเส้นผมอย่างมาก หากคุณทำสิ่งเหล่านี้บ่อยครั้งจะทำให้ผมคุณเสีย แห้ง และแตกปลาย

หากสาว ๆ คนไหนที่ผมเสียไปแล้ว แต่อยากจะทำให้ผมกลับมาสวยเหมือนเดิม ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ แต่อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยในการฟื้นฟูสภาพเส้นผม หากไม่เสียมากก็ใช้เวลาไม่มี โดยการอบไอน้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง และหลังจากสระผมเสร็จทุกครั้งควรจะบำรุงด้วยครีมนวด หรือหมักผมอาทิคย์ละ 2 ครั้งในช่วงแรก ๆ แล้วที่เคยแห้งเสียจะกลับมามีชีวิตชีวาดังเดิม

Read More

ผิวสวยด้วยน้ำผลไม้

สมัยนี้สาว ๆ คนไหนอยากผิวสวยผิวใสก็คงหันไปพึ่งพาอาหารเสริมกันหมด เพราะทานง่าย ทานได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องมานั่งทาครีมทาโลชั่นบำรุงอะไรให้มากมายเหมือนแต่ก่อน เพราะเสียเวลาทา แถมยังต้องรออีกเป็นเดือนกว่าจะเห็นผล สู้ทานอาหารเสริมก็ไม่ได้ 3 วัน 7 วัน ก็เห็นผล ไม่ต้องรอเนิ่นนานให้เสียเวลาทำมาหากิน แต่ข้อเสียของอาหารเสริมนั่นคือราคาแพงค่ะ แพงถึงแพงมากสำหรับคนไม่มีเงิน

แต่อย่าน้อยใจไปค่ะ ถึงไม่มีเงินซื้ออาหารเสริมแพง ๆ แต่สาว ๆ ต้องมีเงินซื้อผลไม้ดี ๆ มาทำเป็นน้ำผลไม้ทานได้ค่ะ เพราะน้ำผลนั้นมีช่วยในการบำรุงผิวพรรณในสวย การทำก็ไม่ยากค่ะ แค่ใช้มะละกอสุก 1 ชิ้นเล็ก น้ำผึ้ง น้ำมะนาว อย่างละ 1 ช้อน แล้วตามด้วยนมสดครี่งแก้ว แล้วก็นำทั้งหมดมาปั่นรวมกัน เท่านี้ก็ได้น้ำผลไม้อร่อย ๆ มาทาน อาจจะเสียเวลาไปบ้างเล็กน้อย แต่ก็คุ้มค่าความอร่อย คุ้มค่าความสวยและคุ้มค่าความมีประโยชน์

ถ้ามีเวลาก็สามารถทำดื่มได้ทุกวัน ทุกเวลา เพราะน้ำผลไม้นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก และอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ อาทิเช่น แคลเซียมช่วยบำรุงกระดูกและฟัน มีวิตามินเอช่วยในการมองเห็น และมีวิตามินซีช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เห็นไม๊ล่ะคะว่าน้ำผลไม้นี้มีประโยชน์มากมายจริง ๆ แล้วแบบนี้จะทานอาหารเสริมแพง ๆ กันไปทำไม หันมาห่วงใยดูแลสุขภาพให้ดีจากภายในกันดีกว่า แล้วสุขภาพภายนอกของคุณก็จะดีตามมาเองค่ะ

Read More

ทำผมหน้าม้าให้เหมาะกับรูปหน้า

โดยส่วนมากแล้วสาว ๆ ส่วนใหญ่ชอบไว้ผมหน้าม้า เพราะทำให้ดูน่ารัก สดใส แบ๊ว ๆ เหมือนเด็ก ๆ แต่ก็มีหลายที่เลือกตัดผมหน้าม้าโดยไม่เหมาะสมกับรูปหน้าของตัว จากที่ผมหน้าม้าเพื่อจะทำให้ดูเด็กลง กลับกลายเป็นว่าดูแก่กว่าเดิม แบบนี้ก็เสียความมั่นใจแย่เลย เพราะตัดไปแล้วคงแก้ให้สวยยาก ได้แต่รอให้ผมยาว ๆ แล้วตัดใหม่อีกที งั้นมาดูกันค่ะว่าผมหน้าม้าแบบไหนที่จะเหมาะกับรูปหน้าของคุณบ้าง

รูปภาพประกอบจาก : http://stylegallery.modshair.co.jp/style/282

1. ผมหน้าม้าตรง จะเหมาะกับคนที่มีรูปหน้าหรือโครงหน้ายาว เพราะจะทำให้รูปหน้าดูสั้นลงและหน้าดูเด็กขึ้น
2. ผมหน้าม้าตัด จะเหมาะกับคนที่มีรูปหน้าเหลี่ยมหรือรูปหน้ากลม เพราะจะช่วยทำให้บริเวณหน้าผากแคบลง และยังช่วยอำพรางใบหน้าให้ดูเล็กลง
3. ผมหน้าม้าเต่อ จะเหมาะกับคนที่มีรูปหน้าไข่ หรือคนที่มีหน้าผากแคบ แต่คนที่มีรูปหน้าเหลี่ยมหรือรูปหน้ากลมก็สามารถตัดได้

รูปภาพประกอบจาก : http://stylegallery.modshair.co.jp/style/262

ทีนี้สาว ๆ รู้กันหรือยังคะว่าผมหน้าม้าแบบไหนเหมาะกับรูปหน้าของตัวเองบ้าง ถ้ารู้กันแล้วก็อย่าลืมไปตัดผมหน้าม้าให้เหมาะสมกับรูปหน้ากันนะคะ จะได้แอ๊บแบ๊วเหมือนสาวเกาหลี แต่อย่าลืมแต่งตัวให้เหมาะสมกับรูปร่างและวัยของสาว ๆ ด้วยนะคะ จะได้ช่วยลดอายุลงได้อีก จนใคร ๆ ก็เรียกน้องกันตลอดทาง

Read More

เคล็ดลับพิชิตหุ่นสวย

ถ้าสาว ๆ คนไหนใฝ่ฝันอยากจะมีหุ่นสวย แต่ยังไปไม่ถึงฝัน อย่าพึ่งท้อหรือหมดกำลังใจไปเลยค่ะ เพราะความพยายามจะช่วยทำให้ความใฝ่ฝันของเราเป็นจริงขึ้นมาได้ แต่ถ้าคุณท้อแท้กับวิธีการลดน้ำหนักที่คุณกำลังทำอยู่ ลองเปลี่ยนมาใช้วิธีอื่นดูก็ไม่เสียหายนะคะ ด้วยการทำตามเคล็บพิชิตหุ่นสวยของเรา ที่จะทำให้คุณไม่เบื่อไปกับการลดน้ำหนักแบบเดิม ๆ อีกต่อไป

1. ทำอารมณ์ให้ผ่อนคลายในช่วงที่กำลังลดน้ำหนัก อย่าเคร่งเครียดจนเกินไป
2. จำกัดปริมาณอาหารในแต่มื้อ ควรจะทานให้ครบทุกมื้อ เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วยตามความต้องการของร่างกาย
3. งดของทอด ของมันทุกชนิด เปลี่ยนมาทานของต้ม ของย่างแทน ยิ่งทานไขมันน้อย ก็ยิ่งผอมเร็ว
4. อย่ารีบร้อนในการลดน้ำหนัก เพราะอาจจะทำให้เครียดและทานเยอะกว่าเดิม หากรู้สึกว่าเครียด หาหนังสนุก ๆ ดู เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ ยิ่งถ้าดูหนังสยองขวัญจะยิ่งช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ดียิ่งขึ้น
5. ออกกำลังเป็นประจำ ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องไปวิ่ง ไปฟิตเนส ไปว่ายน้ำเหมือนใคร ๆ แค่ทำงานบ้านอย่างน้อยวันละ 30 นาที ก็พอ

เป็นยังไงบ้างคะกับเคล็ดลับพิชิตหุ่นสวยง่าย ๆ ที่คุณไม่ต้องวิตกกังวลกับเรื่องอาหาร หรือแม้แต่เรื่องออกกำลังกายอย่างหนักคุณก็ไม่จำเป็นต้องทำ ทำให้คุณมีเวลาว่างไปพักผ่อนดูหนังหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้อีกมากมาย และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องทานยาลดน้ำหนักให้เสียสุขภาพกายและสุขภาพใจ

Read More

แต่งหน้าอย่างไรให้ดูอ่อนกว่าวัย

การแต่งหน้าในสวยใคร ๆ ก็แต่งได้ แต่แต่งหน้าให้ดูอ่อนกว่าล่ะ จะแต่งกันได้ทุกคนรึเปล่า เทคนิคการแต่งหน้าเพื่อให้ดูอ่อนกว่าวัย แม้แต่สาว ๆ ที่แต่งหน้ามานานอาจจะแต่งไม่ได้เลยก็มี เพราะเวลาแต่งหน้าในแต่ละทีจัดหนักจัดเต็มกันซะทุกงาน กะแต่งให้สวยเนียนเหมือนพรีเซ็นเตอร์เครื่องสำอางค์เลยทีเดียว แต่ลืมไปแล้วรึเปล่าคะว่าถ้าแต่งหน้าจัดหนักจัดเต็มบางทีอาจะทำให้ดูหน้าแก่เกินไปนะคะ เพราะฉะนั้นใครอยากแต่งแล้วดูไม่แก่ต้องทำตามเคล็ดลับนี้เลยค่ะ

- เริ่มแรกเลยก่อนแต่งหน้า ล้างหน้าให้สะอาดค่ะ จากนั้นก็ทาครีมหรือโลชั่นบำรุง เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น แลดูเปล่งปลั่ง

- ต่อมาก็ทารองพื้น ขอแนะนำว่าไม่ควรทาเยอะโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะกับสาว ๆ ที่เริ่มมีริ้วรอยบนใบหน้า เพราะหากทาเยอะ อาจจะเป็นการย้ำให้เห็นริ้วรอยได้ชัดเจนขึ้น

- เมื่อทารองพื้นกันเสร็จแล้ว ให้ลงแป้งฝุ่นอย่างเบาบาง

- ปัดมาสคาร่าเล็กน้อย ปัดทั้งขนตาบนและขนตาล่าง จะช่วยให้ดวงตาดูโตขึ้น

- เติมสีสันให้ใบหน้าด้วยบลัชออนสีสดใสด้วยสีชมพูระเรื่อ

- ปิดท้ายด้วยลิปสติกหรือลิปกลอส เพื่อเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก

ถ้าแต่งได้แบบนี้รับรองเลยค่ะว่าใบหน้าของสาว ๆ จะดูสวยกระชากวัยไปได้อีกหลายปี และขอบอกเคล็ดลับอีกอย่างนึงค่ะว่า ควรเลือกเครื่องสำอางค์ให้ดี ให้เหมาะสมกับสภาพผิว และเหมาะสมกับสภาพสีผิวของเราด้วย เพราะถ้าหากเลือกไม่เหมาะสมอาจจะทำให้หน้าดูแก่กว่าวัยได้ค่ะ

Read More